3 อัตราส่วนเกี่ยวกับ “เงินปันผล”

เงินปันผลต่อหุ้น อัตราส่วนเงินปันผลต่อกำไร อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน คืออะไร บอกอะไร มาอ่านสรุปแบบเข้าใจง่ายๆกัน

.

ตัวอย่าง บริษัทมานะมีหุ้นทั้งหมด 1 ล้านหุ้น ทำกำไรได้ 1 ลบ. แบ่งจ่ายเงินปันผล 500,000 บ. ราคาหุ้นของบริษัทมานะ อยู่ที่ 10 บ. ต่อหุ้น

.

เงินปันผลต่อหุ้น (Dividend Per Share) บอกว่า ถ้าเรามีหุ้นนั้น เราจะได้เงินปันผลมากี่บาท คิดจาก เงินปันผล หาร จำนวนหุ้น

.

จากบริษัทมานะ ประกาศจ่ายปันผล 0.5 บ/หุ้น ไม่ว่าเราจะถือหุ้นมานะมากี่วัน ขอแค่เราถือวันที่ขึ้น XD (Excluded dividend) เราก็จะได้เงินปันผตามที่เขาประกาศจ่ายในงวดนั้น ค่านี้จะดูได้ใน “สิทธิประโยชน์” ตรงหุ้นที่สนใจในเว็บไซต์ของ set

.

ถ้าเรามีหุ้นบริษัทมานะ 1,000 หุ้น เราจะได้เงินปันผลในรอบนั้น = 500 บ. ถูกหักภาษี ณ ที่จ่าย 10% เหลือ 450 บ. ส่วนที่เสียภาษีสามารถเลือกได้ว่าจะนำมายื่นเครดิตภาษีเงินปันผลหรือเปล่า

.

อัตราเงินปันผลต่อกำไร (Payout ratio) เพื่อจะดูว่า บริษัทจ่ายปันผลออกมาเป็นกี่ % ของกำไรสุทธิ เป็นตัวบอกว่า บริษัทจ่ายปันผลออกมามากน้อยยังไง

.

ถ้าบริษัทมานะ มี payout ratio 50% ก็คือ ถ้าบริษัทมีกำไร 100 บ. บริษัทจ่ายปันผล 50 บ. เก็บไว้ทำทุน 50 บ. ที่เก็บไว้ทำทุน ก็จะเข้าไปอยู่ในกำไรสะสม ทำให้ส่วนของผู้ถือหุ้นเพิ่มขึ้นได้

.

Payout ratio คิดจาก มูลค่าเงินปันผลรวมตามประกาศจ่าย 12 เดือนล่าสุด หารด้วย กำไรงวด 12 เดือนล่าสุด

.

ค่านี้ได้ในเว็บไซต์ของ set ตรงหุ้นที่เราสนใจใน “สรุปข้อสนเทศบริษัทจดทะเบียน” ตรง “อัตราผลตอบแทน”

.

payout ratio สูง: จ่ายปันผลออกมามาก, payout ratio ต่ำ: จ่ายปันผลออกมาน้อย

.

ถ้า payout ratio > 100% แสดงว่า จ่ายปันผลออกมาเกินกำไรที่ทำได้ในปีนั้น ซึ่งอาจนำเงินจากกำไรสะสมมาจ่าย หรือกู้มาจ่ายปันผล

.

คนที่ลงทุนหุ้นบางคนอาจอยากให้อัตรานี้นี้สูงๆ เพราะยิ่งสูงหมายความว่า บริษัททำกำไรได้เท่าไหร่ก็จ่ายปันผลออกมาให้เกือบหมดของกำไร ซึ่งก็มีข้อที่ต้องพิจารณา ถ้าบริษัทที่มีกำลังเติบโตการจ่ายปันผล ก็อาจจะไม่มาก เพราะเก็บเงินไว้ทำทุนขยายกิจการ ค่า payout ratio ก็อาจน้อยได้

.

และการดูว่าบริษัทมีความสามารถในการเงินทุนไปทำกำไรได้ดีไหม ดูอัตราผลตอบแทนของผู้ถือหุ้น (ROE) บริษัทที่จะเติบโตได้ดีนั้น ต้องมีความสามารถในการนำเงินทุนไปทำกำไรได้ดีหรือมีค่า ROE ที่สูงด้วย

.

อัตราส่วนเงินปันผลตอบแทน (Dividend yield; DIY) บอกว่า ถ้าซื้อหุ้นที่ราคานี้ จะได้ผลตอบแทนจากเงินปันผลเท่าไหร่

.

อัตราเงินปันผลตอบแทน คิดจาก เงินปันผลรวมรอบประจำปีล่าสุด หารด้วย มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด

.

มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด(market capitalization) มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นลงตามราคาปิดของหุ้น

.

หาดูได้จากเว็บไซต์ของ set ตรงงบการเงิน >> ตาราง ผลประกอบการสำคัญ ซึ่งเวลาเราดูค่านี้ก็จะมีการเปลี่ยนแปลงได้ จากราคาหุ้นที่เป็นตัวหารเปลี่ยนแปลง

.

มี 3 ข้อสังเกต

.

1. ค่านี้มีความเลื่อมของเวลา เพราะเงินปันผลที่เป็นตัวตั้งใช้การจ่ายเงินปันผลในอดีตรอบประจำปีล่าสุด ส่วนมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดนั้นใช้วันต่อวันซึ่งเป็นค่าปัจจุบัน

.

2. ค่านี้ขึ้นกับเงินปันผลที่จ่าย ถ้าจ่ายปันผลลดลงค่านี้ก็จะลดลงได้ และ เป็นการใช้ค่าเงินปันผลในอดีต ไม่ได้เป็นการรับรองว่า การจ่ายปันผลจะเหมือนเดิมในอนาคต

.

3. ค่านี้จะเปลี่ยนไปตามราคาหุ้น ถ้าราคาหุ้นลดลง ก็จะทำให้ค่าอัตราเงินปันผลตอบแทนนี้เพิ่มขึ้นได้

.

จ่ายเงินปันผลต่อหุ้น คือ 0.5 บาท ในรอบปีที่ผ่านมา ราคาปิดของหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 10 บาท ดังนั้น Dividend yield = 5 % แต่ถ้าเงินปันผลต่อหุ้น คือ 0.5 บ. ในรอบปีที่ผ่านมา ราคาปิดของหุ้นปัจจุบันอยู่ที่ 12 บ. Dividend yield = 4.16%  

ขอบคุณ ข้อมูลดีๆจาก เพจ หมอยุ่งอยากมีเวลา

https://doctorwanttime.com/